ดีเอสไอขยายผลคดีซานติก้า
ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าว คณะทำงานมีความสงสัยว่า ผับทั่วประเทศที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบันมีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือ ไม่ และเมื่อคดีซานติก้าผับได้รับอนุมัติให้เป็นคดีพิเศษแล้ว ก็จะเป็นคดี ตัวอย่างให้ดีเอสไอนำไปขยายผล เพื่อตรวจสอบการเลี่ยงภาษีของผับบาร์ชื่อดังทั่วประเทศ ทั้งในกทม. และต่างจังหวัด ที่คาดว่าน่าจะมีการหลบเลี่ยงภาษีเป็นจำนวนมาก
“ประเด็นซานติก้าผับไม่เสียภาษี เบื้องต้นยังมีความไม่ชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการหลบ เลี่ยงหรือละเว้นไม่จัดเก็บ หรือเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าจะต้องจัดเก็บภาษีผับอย่างไรหรือไม่ ซึ่งเป็นจุดที่ดีเอสไอต้องสอบสวนเพื่อทำให้ผับซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก มีการเสียภาษีตามระบบถูกต้องตามกฎหมาย” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวเปิดเผยต่อว่า คดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับเป็นคดีอาญาทั่วไป ซึ่งกระทรวงยุติธรรมคงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้สอบสวนหาผู้รับผิดฐาน ทำให้เกิดเพลิงไหม้และมีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา คณะทำงานได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดของซานติก้าผับ ซึ่งพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้มาจากการเข้าตรวจสอบพื้นที่หลังเกิดเหตุ 9 วัน มาเปิดให้พล.ต.อ. จงรักษ์ จุฑานนท์ รองผบ.ตร. ดู ก่อนที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม จะเปิดแถลงข่าวแล้ว
“ขณะนี้พยานหลักฐานคดีซานติก้าผับของกระทรวงยุติธรรมและสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติต่างก็ไม่สมบูรณ์ทั้งสองฝ่าย จึงต้องช่วยกันทำตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ไม่ใช่ว่าดีเอสไอจะโอนมาทั้งหมด เพราะเรามีอำนาจทำได้ตามกฎหมายกำหนด ฉะนั้นจึงจะขอโอนมาทำในแง่คดีภาษีซึ่งเป็นคดีความผิดตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547” แหล่งข่าวระบุ
ใส่ความเห็น